อ่าน 2435 ครั้ง
สาเหตุและการดูแลแผลที่เท้าของผู้ป่วยเบาหวาน
content/65.jpg
 

             

         ผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานมักจะมีโรคแทรกซ้อนมากมาย อย่างหนึ่งที่พบบ่อย คือ การเกิดแผลที่เท้า ซึ่งถ้าหากไม่ได้รับการดูแลอาจทำให้กลายเป็นเนื้อเน่าเกิดการลุกลามยากแก่การรักษา หากไม่สามารถรักษาได้ทันอาจถึงกับต้องตัดขาในที่สุด

 

enlightened แผลที่เท้าในผู้ป่วยโรคเบาหวานเกิดจาก

1.       ปลายประสาทเสื่อม ได้แก่การเสื่อมของปลายประสาท ประสาทควบคุม กล้ามเนื้อ และ ระบบประสาทอัตโนมัติบริเวณเท้า เมื่ออประสารทรับความรู้สึกที่เท้าเสื่อมจะทำให้ไม่ผู้ป่วยไม่รู้สึกเมื่อได้รับบาดเจ็บและเกิดแผลบริเวณเท้า เมื่อผู้ป่วยไม่รู้สึกเจ็บปวดจึงทำให้ไม่ได้รับการรักษาแต่เนิ่น  ๆ ทำให้แผลที่เกิดขึ้นเกิดการอักเสบและลุกลามมากขึ้น นอกจากนี้อาจเกิดเป็นตาปลา (callus) ทำให้ผิวหนังตรงส่วนนั้นหนาขึ้นและเมื่อเกิดการกดทับตาปลาจากการเดินอาจทำให้เนื้อเยื่อใต้ผิวหนังถูกทำลาย มีการติดเชื้อและอักเสบและแตกออกมาเป็นแผลได้ แผลที่เกิดจากโรคผิวหนังเช่น ฮ่องกงฟุต หรือน้ำกัดเท้าก็เป็นปัญหาเช่นเดียวกัน เนื่องจากผู้ป่วยไม่รู้สึกเจ็บหรือคันจึงไม่ได้รักษาอย่างทันท่วงทีทำให้อาการของโรคเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้การเสื่อมของประสาทควบคุมกล้ามเนื้อยังอาจทำให้เท้าผู้ป่วยผิดรูปทำให้เกิดจุดกดทับและเกิดเป็นแผลได้ง่ายขึ้น อีกทั้งผู้ป่วยเบาหวานจะสูญเสียการควบคุมของการหลั่งเหงื่อ เมื่อเหงื่อออกน้อย ผิวจะแห้งแตกทำให้เกิดการติดเชื้อโรคและแผลลุกลามได้ง่าย

 

2.       ความผิดปกติของหลอดเลือด กิดจากที่หลอดเลือดอุดตันหรือหลอดเลือดตีบทำให้ไม่มีเลือดไปเลี้ยงเนื้อเยื่ออย่างเพียงพอ ทำให้ปลายเนื้อเยื่อตาย ผิวหนังบริเวณปลายนิ้วเท้ามีดำคล้ำเนื่อง บาดแผลใด ๆ ที่เกิดขึ้นไม่สามารถสมานเองได้เนื่องจากการขาดเลือด

 

3.       การติดเชื้อแทรกซ้อน แผลที่เท้าของผู้ป่วยมักพบการติดเชื้อโรคต่าง ๆ ร่วมด้วยเสมอ โดยเฉพาะเชื้อราที่ผิวหนังบริเวณนิ้วเท้าทำให้เกิดเป็นแผลถลอกได้ง่ายและยังรักษาได้ยากอีกด้วย

 

enlightened การรักษาแผลที่เท้า

               เบื้องต้นเมื่อผู้ป่วยพบว่ามีบาดแผลเกิดขึ้นที่บริเวณเท้า ควรล้างแผลให้สะอาดด้วยน้ำอุ่นและสบู่ จากนั้นเช็ดให้แห้งแล้วใส่ยาฆ่าเชื้อที่เป็นยาสามัญประจำบ้าน เช่น เบตาดีนเจือจาง ไม่ควรใช้ยาที่มีสีเช่น ยางแดงหรือทิงเจอร์ไอโอดีน เนื่องจากจะสังเกตลักษณะแผลได้ยาก ปิดแผลด้วยผ้ากอซหรือผ้าพันแผลสะอาดที่ปราศจากเชื้อ และ ไม่ควรใช้พลาสเตอร์ปิดแผลโดยตรง หากผู้ป่วยเป็นตาปลาควรรักษาความสะอาดและตัดออกอย่างสม่ำเสมอเพื่อไม่ให้เกิดเป็นเนื้อตาย หากพบความผิดปกติของแผล เช่น บวมแดงมากขึ้น หรือ มีหนอง ให้รีบปรึกษาแพทย์ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาการทำแผล การใช้ยาปฏิชีวนะ หากเกิดการลุกลามรุนแรงแพทย์อาจพิจารณาให้มีการผ่าตัดได้

 

enlightenedข้อควรปฏิบัติในการดูแลรักษาเท้าของผู้ป่วยเบาหวาน

·         ควรตรวจดูเท้าทุกวันว่ามีความผิดปกติ หรือ มีบาดแผลใด ๆ หรือไม่ โดยต้องตรวจให้ทั่วทั้งซอกนิ้ว ฝ่าเท้า หลังเท้าและส้นเท้า

·        ทำความสะอาดเท้าอยู่เสมอด้วยน้ำสะอาดและสบู่ หลังทำความสะอาดดูแลให้เท้าแห้งแต่อย่าให้แห้งจนเกินไปโดยเฉพาะฤดูหนาวควรใช้ครีมบำรุงผิวเพื่อรักษาความชุ่มชื้นไว้ด้วย

·         ไม่ควรเดินเท้าเปล่าโดยเฉพาะนอกบ้านเพราะอาจเกิดบาดแผลได้โดยไม่รู้ตัว

·         ควรบริหารเท้าเพื่อให้เลือดมีการไหลเวียนได้สะดวก

·         สุดท้ายเมื่อพบปัญหาที่เท้าต้องรีบรักษาให้เร็วที่สุดและหากพบว่าบาดแผลมีความผิดปกติให้รีบปรึกษาแพทย์

 

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : ความรู้เรื่องเบาหวาน ฉบับสมบูรณ์ โดย ศ. น.พ. เทพ หิมะทองคำ และทีมบรรณาธิการ

ภาพประกอบจาก: freedigitalphotos.net By satit_srihin

yes เรียบเรียงโดย รักสุขภาพดอทคอม Raksukkapap.com







Create your own banner at mybannermaker.com!








รักสุขภาพ : ข่าวสุขภาพ#บทความสุขภาพ#โรคน่ารู้#ลดความอ้วน#ลดน้ำหนัก#รักษาสิว#รักษาฝ้า#เบาหวาน#ความดัน#อาหารเสริม#ผิวขาว#กลูตาไธโอน#กาแฟลดน้ำหนัก#